งานนิทรรณการสุนทรียะของส่วนรวม เปิดนิทรรศการอย่างเป็นทางการ ในวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14:00 น.  การนี้ อัตตา แกลเลอรี่ มีความยินดีขอเชิญชมงานนิทรรศการ “สุนทรียะของส่วนรวม (Aesthetic of Collective)” นิทรรศการลำดับที่ 6 ของโครงการสอบถามตัวตน (Self-Enquiry) โดย คามิน เลิศชัยประเสริฐ ที่ร่วมมือกับ อัตตา แกลเลอรี่ จัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์จิตวิญญาณร่วมสมัยแห่งศตวรรษที่ 31 (สำนักงาน) จังหวัดเชียงใหม่

นิทรรศการนี้จะมีการนําเสนอข้อมูลสารคดีของผลงาน และกิจกรรมในอดีตในรูปแบบศิลปะจัดวางซึ่งบอกเล่าถึงโครงการที่คามินได้มีส่วนร่วมก่อตั้งและสร้างสรรค์ อาทิ โครงการที่นา (the land foundation) อุโมงค์ศิลปธรรม (Umong Silpadhamma) ศิลปะเพื่ออากาศ (Art for Air) และพื้นที่ของการเรียนรู้แบ่งปันความรักความเมตตาซึ่งกันและกัน อย่างพิพิธภัณฑ์จิตวิญญาณร่วมสมัยแห่งศตวรรษที่ ๓๑ (31st Century Museum of Contemporary Spirit) นิทรรศการจะพาผู้ชมกลับมาตั้งคำถามพร้อมทั้งหาคำตอบว่าอะไรคือแก่นปรัชญาของการทำงานร่วมกัน

การเปิดนิทรรศการอย่างเป็นทางการจะถูกจัดขึ้นในรูปแบบของงานเสวนาในหัวข้อเรื่อง “สุนทรียะของส่วนรวม (Aesthetic of Collective)” ใน วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14:00 – 16:00 น. โดยมี คุณชัชวาลย์ ทองดีเลิศ (ประธานสภาลมหายใจเชียงใหม่) คุณพฤ โอ่โดเชา (ปราชญ์ชาวบ้านปกาเกอะญอ นักเคลื่อนไหวเพื่อสังคมชาติพันธุ์) และ ฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวนิช (ศิลปินและผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิที่นา)   โดยมี คามิน เลิศชัยประเสริฐ ทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ หลังจากนั้นจะเปิดให้ เข้าชมผลงานร่วมกันจนถึงเวลา 17:00 น.

นิทรรศการสุนทรียะของส่วนรวม เปิดให้ชมตั้งแต่ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ถึง 23 เมษายน 2567 ณ พิพิธภัณฑ์จิตวิญญาณร่วมสมัยแห่งศตวรรษที่ 31 (สำนักงาน) 100/6 หมู่ 10 ซอยวัดอุโมงค์ 11 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 50200 (เปิดทำการ: ทุกวันเสาร์-อังคาร เวลา 13:00-17:00 น.)

***สุนทรียะของส่วนรวม

ศิลปะของการเข้าไปนั่งในใจผู้อื่น และ

การเอาคนอื่นเข้ามาอยู่ภายในใจตน คือ

การหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับปัญหา

เราเป็นทั้งผู้สร้างและผู้รับผลกรรมของปัญหา เพราะ

โดยแท้จริงแล้วเราคือส่วนหนึ่งของกันและกัน

ในแก่นแท้ไม่สามารถแบ่งแยกได้

เราจะแก้ไขปัญหานั้นได้ก็ต่อเมื่อเราได้กลายเป็นปัญหานั้น

เมื่อเรากลายเป็นปัญหาเราก็จะเข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง

เพราะปัญหาที่แท้จริงเป็นปัญหาของมนุษยชาติ

ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความเห็นแก่ตัว

ทำให้เรามองปัญหาแบบแยกส่วน และ

ทำให้เราไม่สามารถเข้าใจสาเหตุที่แท้จริง

สังคมไม่สามารถแบ่งแยกออกจากกัน เช่นเดียวกับ

ท้องฟ้า แม่น้ำ พื้นดินทั้งหมดคือธรรมชาติ

โดยแท้จริงแล้ว เราไม่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้

รวมถึงร่างกายของเราเอง

เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องคืนสู่ธรรมชาติ

กลายเป็นดิน น้ำ ลม ไฟ

การที่เราดำรงชีวิตโดยขาดจิตสำนึกถึงความเป็นหนึ่งเดียว

เป็นสาเหตุหลักของการทำลายระบบนิเวศและเกิดสงคราม

เมื่อเรามีความคิดว่ามนุษย์เป็นศูนย์กลาง

ทุกสิ่งก็จะเสียสมดุลเพราะมนุษย์จะอยู่ไม่ได้ แต่

เมื่อเรามีความเข้าใจว่าธรรมชาติเป็นศูนย์กลาง

ทุกสิ่งก็จะเกิดสมดุล และ

เกิดความงามของส่วนรวม

มองเห็นสัจธรรม

เราจะเกิดการตระหนักรู้ที่แท้จริง ว่า

เราไม่สามารถเป็นเจ้าของครอบครองอะไรได้จริงๆ เพราะ

ทุกสิ่งเป็นเจ้าของตัวมันเองนั่นคือธรรมชาติ และ

กลับคืนสู่ความว่างเปล่า

คามิน

๑๕ มีนาคม ๒๕๖๖

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here