พระเอกผิวเข้ม อารมณ์ดี เพ็ชร ฐกฤต ตวันพงค์ พลิกวิกฤตสู่ภารกิจใหม่ คืนกลับสู่วิถีชีวิตธรรมชาติ ก่อร่างสร้างฟาร์ม ผลิตผลการเกษตรเป็นของตัวเอง ด้วยความสุขและความภาคภูมิใจ…
ปรับตัวตามผลกระทบจากการระบาดโควิด-19
ช่วงนี้ก็พักยาวเลยครับสำหรับงานละคร ไม่มีค้างในสต๊อกเลยครับ ที่ถ่ายทำไปก็ออนแอร์ทั้งหมดแล้ว รอคิวเปิดกล้องอีก 2เรื่องครับ ผมปิดกล้องเรื่องแก่นแก้วพอดีเลยเมื่อช่วงปีก่อน โควิด-19 ระลอกแรกเลยคับ พอมีล็อกดาวน์ 2 เดือน คาเฟ่ก็ต้องปิด ทุกอย่างหยุดชะงักไปหมด มีผลกระทบกับงานเราด้วย รวมทั้งคาเฟ่เราด้วย แรกๆก็ยังรับไม่ได้เหมือนกัน มันกะทันหันมาก ช่วง 2 เดือนนั้นผมก็เริ่มมานั่งคิด คุยกับคุณพ่อคุณแม่ ต้องเริ่มปรับตัวเอง จะอยู่เฉยๆอย่างนั้นไม่ได้แล้ว ต้องเปลี่ยนมุมมองความคิด วิถีการใช้ชีวิต New Normal จริงๆ จากที่เราว่างมาก ไม่เช่นนั้นเราจะเครียด คิดมาก ฟุ้งซ่าน เพราะในเรื่องของค่าใช้จ่ายเรายังต้องจัดการอยู่ สุดท้ายก็เลยสรุปตัดสินใจ นำเงินก้อนที่มีอยู่ไปลงทุนซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาเป็นงานด้านเกษตร ปลูกพืช ทำเป็นสวนไปเลย จากแต่ก่อนที่เราไม่เคยคิดเลย พอโควิด-19 เข้ามา มันทำให้เราต้องเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนมุมมองใหม่ทั้งหมดเลย ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่เลยกับงานตรงนี้
แรงบันดาลใจจากความกดดัน
ความกดดันเลยครับ ก่อให้เกิดมาเป็นแรงบันดาลใจตรงนี้ จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้หลายๆอย่างพลิกผันไปหมด จากการใช้ชีวิตแบบเป็นนักแสดง อยู่ในวงการบันเทิง ออกงานอีเวนต์ มีความสะดวกสบาย กลับมาจับจอบจับเสียมเป็นเกษตรกร ตากแดดตัวดำ ตรงนี้เป็นอะไรที่ให้ข้อคิดว่า ไม่มีความแน่นอน เราจะยึดติดหรือทำอาชีพเดียวต่อไปคงไม่ได้แล้ว ทุกคนควรมีอาชีพหรือธุรกิจเสริมไว้รองรับกับสถานการณ์ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่คาดคิด ผมเลยต้องรีบหาข้อมูล ศึกษาจาก Youtube ในโซเชียลมีเดียต่างๆ สรุปเลยมาคลิกตรงที่ทำการเกษตร ผมต้องเริ่มศึกษาตั้งแต่ประเภทของต้นไม้ การปรุงดิน ทิศทางลม การดูแลการเจริญเติบโตของพืชและผลผลิต เรียกว่าครอบคลุมทั้งหมดเลยของการเกษตร มีการปรึกษาผู้ใหญ่และอาจารย์หลายๆท่าน นำแนวความคิดของแต่ละท่านมาปรับประยุกต์ใช้มาเป็นแนวทาง รวมทั้งผมจะศึกษาด้วยตัวเองด้วย ก็เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นทีละนิดๆ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป จนมันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นครับ
ผลผลิตจากฟาร์มของเรา
ผลผลิตแรกๆเลยที่ได้ จะเป็นแนวพืชผักสวนครัว พวกมะเขือ ถั่วฝักยาว พริก กะเพรา บวบ หัวไชเท้า และมะระครับ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นฐานของการเริ่มปลูกพืชผัก เพราะปลูกง่าย ได้ผลผลิตในระยะสั้น เห็นผลและเก็บเกี่ยวได้เร็ว ยอมรับเลยคับพอเห็นผลผลิตของเรา ได้ทานครั้งแรก ผมรู้สึกภูมิใจมาก ผักเราปลอดสารพิษ ทานแล้วสะดวกใจ สิ่งต่างๆเหล่านี้ช่วยผลักดัน และทำให้ผมรู้สึกอยากไปต่อ เริ่มเต็มที่กับงานตรงนี้ จึงพัฒนาไปสู่การปลูกแนวไม้ผล กล้วย มะละกอ มะม่วง เงาะ มังคุด ลองกอง ลิ้นจี่ ซึ่งได้ผลผลิตในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น หรืออย่างไม้ผลบางประเภท อย่างฝรั่งหลายสายพันธุ์ ตรงนี้ก็จะได้ผลผลิตเร็วกว่าไม้ผลประภทอื่นๆ รสชาติโอเค อร่อยมากคับ ผมภูมิใจนำเสนอมาก ถ้าใครที่เคยได้ติดตามในเพจ The Florimel Garden Farm ก็เคยลงให้ชมกันไปแล้วครับ ส่วนผักที่ผมปลูกและจะทานเป็นประจำคือ ชะอม ครับ นำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนูมาก ตอนนี้ผมลงไปประมาณ 400-500 ต้นแล้วครับ ล้อมเป็นรั้วไว้เลย ก็จะมีแบ่งให้ชาวบ้านแถวนั้นไปบ้างครับ จริงๆยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่ได้มองไปถึงเรื่องของการขาย ผมจะเน้นปลุกไว้ทานเอง แต่ถ้าผลผลิตออกมาเยอะก็จะมีแบ่งปันให้กับคนงานที่มาทำงานในฟาร์มของเรา แบ่งให้คุณลุงที่ช่วยดูแลฟาร์มให้มากกว่า หรืออย่างบางทีมีแขกมาเดินเยี่ยมชมในฟาร์ม ตรงไหนที่เด็ดทานหรือเก็บไปประกอบอาหารได้ผมก็ยินดีให้ครับ
แผนการเกษตรในอนาคต
ตอนนี้ผมเริ่มสนใจและหันมองไปที่ไม้ผลอย่าง ฟิก หรือ มะเดื่อฝรั่ง เนื่องจากเป็นผลไม้ต่างประเทศ ที่หากินยาก ราคาค่อนข้างสูง และในท้องตลาดบ้านเราแทบจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ตรงนี้ผมเลยเริ่มมองเป็นเรื่องของการขาย ผมมองระยะยาววางแผนไว้ 5 ปี เนื่องจากเราต้องเผื่อเวลากว่ามันจะเจริญเติบโต ออกดอก ออกผล ต้องใช้ระยะเวลาครับ ซึ่งถ้าถามถึงควาคาดหวังตรงนี้ผมยังไม่ค่อยมั่นใจเรื่องผลผลิต เราทาบกิ่งมา ตอนกิ่งมา ก็ต้องมาวัดดวงกันอีกทีว่าผลจะออกมาเป็นที่น่าพอใจหรือไม่ ทำให้เราต้องศึกษาข้อมูลมากขึ้น ทั้งในเรื่องของการเตรียมดิน การดูแลรักษา หรือการให้ได้ผลผลิตตรงตามต้องการ อย่าลืมว่าเราลงทุนตรงนี้ไป ราคาต้นทุนค่อนข้างสูงพอสมควร แต่ไม้ผลจากต่างประเทศบางทีต้นเจริญเติบโต แต่ไม่ออกดอกออกผล ตรงนี้ไม่เฉพาะแต่ ฟิก แต่รวมถึงไม้ผลประเภทอื่นๆอย่าง ลำไยจัมโบ้ พลับ อโวคาโด มะเหมี่ยวอินโด ส่วนใหญ่ผมจะเลือกแนวที่ท้องตลาดมีจำหน่ายไม่พอ ก็จะนำมาปลูก เพื่อเป็นความหวังสำหรับการทำตรงนี้ในอนาคต ถ้าผลผลิตของเราโอเค นอกจากจะได้ทานเอง แบ่งปันคนรอบข้างแล้ว ยังสามารถขายสร้างรายได้ได้อีกด้วย
บทเรียนจากวิถีการเกษตร
สำหรับการปลูกพืช และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับการเกษตรของผม รวมๆนี่ก็น่าจะร่วม 1ปีแล้วครับ ประสบการณ์จากตรงนี้ เป็นสิ่งที่ช่วยสอนอะไรหลายๆอย่างให้กับผมได้ในอีกมุมมองหนึ่งนอกเหนือจากอาชีพนักแสดง ทั้งในเรื่องการมีความรับผิดชอบมากขึ้น การตรงต่อเวลา ได้เรียนรู้ว่าเป็นการทำงานในอีกรูปแบบหนึ่ง อย่างวงการบันเทิงเราต้องทำงานร่วมกับคนหมู่มาก เราก็นำมาปรับใช้ในการทำการเกษตรร่วมกับคนในฟาร์ม ที่ต้องอาศัยการใช้ความคิดมากขึ้น ความรอบคอบ รวมถึงการลงแรงกายแรงใจของเราเอง ต้องให้ความสำคัญ เรื่องการทำงานเป็นขั้นตอน การลงต้นไม้ การวางแปลนของพืชแต่ละประเภท การแบ่งเฟส การวางท่อน้ำ ทุกอย่างเลยครับมันทำให้เราโตขึ้น ส่งผลให้เรามีทัศนคติ ปรัชญาการใช้ชีวิต ที่เปลี่ยนไปในทางที่ดี ค้นพบตัวตนของเรา และความชอบที่แท้จริงของเรา จากแต่เดิมที่เราทำการแสดงอย่างเดียว เราจะไม่รู้เลยว่ายังมีอีกมุมมองหนึ่งที่เราชอบและสามารถทำได้ และที่สำคัญได้สร้างความภาคภูมิใจจริงๆจากการที่เราได้ทำทุกๆอย่างในอาชีพนี้จากตัวเราเอง เรียกว่า เหนื่อยกาย แต่สบายตาสบายใจกับผลผลิต นอกจากนี้ผมก็พยายามทบทวนว่าเราได้อะไรจากตรงนี้อีกบ้าง คำตอบคือ ได้สังคม สิ่งแวดล้อม มุมมองความคิด คุณค่าทางใจ อีกรูปแบบหนึ่งเพิ่มเติมจากอาชีพในวงการบันเทิง ไม่เพียงแต่ตัวผมเองที่สัมผัสได้ แต่หลายๆคนที่รู้จักผม อย่างแฟนคลับ แฟนละคร ก็รู้สึกสัมผัสได้และชื่นชมเรามากยิ่งขึ้นไปด้วย ตรงนี้เราเหมือนเป็นตัวอย่างดีๆ ให้กับหลายๆคน ในการที่จะฝ่าฟันอุปสรรคปัญหา สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส รวมถึงสร้างมุมมองใหม่ๆในการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น บนพื้นฐานการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ภายใต้สภาพแวดล้อม อากาศที่ดี และใกล้ชิดธรรมชาติ
การจัดสรรภารกิจในวงการบันเทิง กับภารกิจด้านการเกษตร
ในอนาคตอันใกล้ ผมเองก็ต้องกลับไปทำงานในวงการบันเทิง กลับไปถ่ายละครตามปกติหลังจากที่สถานการณ์ต่างๆน่าจะเริ่มดีขึ้น แน่นอนที่สุดเรื่องของการเกษตร ฟาร์มของผม ก็ต้องดำเนินควบคู่ไปอย่างแน่นอน โชคดีที่ฟาร์มไม่ได้ไกลจากกรุงเทพฯมาก ผมก็เลยสามารถแบ่งเวลาว่างจากถ่ายละคร มาดูแลฟาร์ม และอยู่กับพืชสวน ต้นไม้ สิ่งที่ผมรักได้ โดยไม่คิดว่าจะมีปัญหาหรือผลกระทบใดๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การบริหารจัดการในเรื่องของเวลา เมื่อถึงสถานการณ์จริงๆเราจะสามารถจัดสรรได้เอง อีกส่วนในเรื่องของการดูแลตัวเอง อย่าลืมว่าอาชีพในวงการบันเทิงต้องให้ความสำคัญในบุคลิกภาพที่ดี ถึงเวลานั้นเวลาทำการเกษตร ผมอาจจะต้องงดออกแดดบ้างถ้าไม่จำเป็น อาจจะให้คุณลุงที่เฝ้าพื้นที่หรือคนงานที่ฟาร์มช่วยดูแลในบางจุดบ้าง อาจจะเลี่ยงมาลงพื้นที่การเกษตรในช่วงเย็นแทน เซฟตัวเองในส่วนของหมวก เสื้อคลุมกันแดด รองเท้าที่มิดชิดครับ เพื่อไม่ให้ผลกระทบต่องาน ในเรื่องของ Continue ต่างๆเวลาถ่ายทำละคร เรียกว่าเราต้องรับผิดชอบและทำได้ดีทั้งสองด้านครับ
ฝากติดตามผลงานละคร และ The Florimel Garden Farm
สำหรับแฟนๆละคร ก็อดใจรอผลงานละครของผม อย่าเพิ่งลืมกันนะครับ เตรียมเปิดกล้องอีก 2 เรื่อง เดี๋ยวไว้รอฟิตติ้งหรือเปิดกล้อง คงจะได้ทราบความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนมากขึ้นครับ ในส่วนของฟาร์มและเรื่องราวการเกษตรตอนนี้ แฟนๆก็สามารถเข้าไปติดตามชมภาพสวยๆ ดอกไม้ บ้านสวน คลิปต่างๆ ว่าแต่ละวันเราปลูกอะไรบ้าง มีผลผลิตอะไรบ้าง รวมทั้งความเคลื่อนไหวผ่านทางเพจ The Florimel Garden Farm หรือผ่านทาง IG@phet_thakrit ก็ได้ครับ ซึ่งจะ Update อยู่ตลอดๆนะครับ หรือใครอยากจะแนะนำ ให้ข้อมูลในเรื่องของการปลูกพืชต่างๆ ผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ