กรุงเทพฯ ประเทศไทย 20 กุมภาพันธ์ 2567 – ในขณะท่ีภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ยังคงแสดงถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจท่ีแข็งแกร่งและการค้าที่เจริญรุ่งเรือง แอร์บัสได้คาดการณ์ในอีก20ปีข้างหน้าตลาดจะมีความต้องการเครื่องบินขนส่งสินค้าลำตัวกว้างประมาณ 400ลำในภูมิภาคนี้ ซึ่งรวมถึงเครื่องบินผลิตขึ้นใหม่และเข้าโครงการปรับปรุงเครื่องบิน ซึ่งจำนวนนี้คิดเป็นมากกว่า 25 เปอรเ์ซ็นต์ ของความต้องการทั่วโลกท่ีมีต่อเครื่องบินขนส่งสินค้าลำตัวกว้างจำนวน 1,490 ลำ ในกล่มุเครื่องบินท่ีมีน้ำหนัก มากกว่า 40 ตัน
คุณครอว์ฟอรด์ แฮมิลตัน (Crawford Hamilton) หัวหน้าฝ่ายการตลาดการขนส่งสินค้าของแอร์บัส กว่าวว่า บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวของตลาดการขนส่งสินค้าทางอากาศด้วยเครื่องบิน เอ350เอฟ (A350F)ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด
“ในฐานะท่ีเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้ารุ่นออกแบบใหม่ทั้งหมดเพียงลำเดียวของโลก เครื่องบิน A350F เป็น การเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดด้านประสิทธิภาพในตลาดการขนส่งสินค้าที่มีการแข่งขันสูง ”เขากล่าวเสริมอีกด้วยว่า “มันจะช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้มากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเครื่องบิน747เอฟ (747F) รุ่นก่อนหน้า และA350F เป็นเครื่องบินขนส่งสินค้าลำแรกในตลาดท่ีปฏิบัติตามมาตรฐานการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ท่ีเพิ่มขึ้นขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO)ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2570”
เครื่องบิน A350F สามารถบินได้ไกลถึง 4,700 ไมล์ทะเล (หรือ 8,700 กิโลเมตร) ในขณะเดียวกันยังคงรักษาต้นทุนการดำเนินงานท่ีต่ำกว่าเครื่องบินขนส่งสินค้าอื่น ๆในตลาดปัจจุบันอย่างมาก ทำให้สามารถรองรับการให้บริการแก่ตลาดการขนส่งสินค้าหลัก ๆ ทั้งหมดได้ รวมถึงเส้นทางการขนส่งสินค้าใหญ่ท่ีสุดในโลกระหว่างฮ่องกงและแองเคอเรจ
เครื่องบิน A350F สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้มากถึง 111 ตัน และมีประตูสำหรับห้องบรรทุกสินค้าหลักใหญ่ท่ีสุดในอุตสาหกรรมการบิน ด้วยประตูห้องบรรทุกสินค้าหลักกว้างขึ้นถึง 15 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับครื่องบินของคู่แข่งทำใหเ้ครื่องบิน A350F สามารถขนส่งเครื่องยนต์ขนาดใหญ่แบบใหม่ทั้งหมดได้ โครงเครื่องบินทำจากวัสดุขั้นสูงมากกว่า70เปอรเ์ซ็นต์ ซึ่งส่งผลให้น้ำหนักขณะบินขึ้นเบากว่าเครื่องบินที่พัฒนาโดยคู่แข่งถึง 46ตัน
คณุครอว์ฟอรด์ แฮมิลตัน กล่าวว่า“เนื่องจากเอเชียแปซิฟิกจะกลายเป็นภูมิภาคท่ีใหญ่ท่ีสุด สำหรับการค้าระหว่างประเทศในอีก20ปีข้างหน้า เครื่องบินA350F ซึ่งได้เพิ่มระดับการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพและ ความสามารถในการบรรทุกสอดคล้องกับตลาด รวมถึงพิสัยการบิน ทำให้ได้รับการปรับแต่งมาอย่างสมบูรณ์แบบต่อการพัฒนาการปฏิบัติงานของสายการบินต่างๆด้วยการตอบโจทย์ความต้องการด้านการบรรทกุสินค้าที่หลากหลาย และเป็นผู้นำสู่อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้นในการขนส่งสินค้าทางอากาศ”
A350F มีกาหนดเข้าประจำการในปี2569 โดยการประกอบชิ้นส่วนลำตัวเครื่องบิน A350F ลำแรกจะเริ่มดำเนินการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งสอดคล้องกับกรอบเวลาของแผนการผลิตเครื่องบิน
ข้อมูลสิ้นเดือนมกราคม2567 เครื่องบินตระกูลเอ350(A350)รุ่นล่าสุด ได้รับคำสั่งซื้อมากกว่า 1,200 รายการจากลูกค้า 57 รายทั่วโลก ซึ่งรวมถึงคำสั่งซื้อ 50 รายการ สำหรับเครื่องบินรุ่น A350F จากสายการบินขนส่งสินค้าชั้นนำ 9 ราย สำหรับในประเภทเครื่องบินขนาดกลาง ตระกูล เอ330 นีโอ (A330neo) ยังคงได้รับความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยมีคำสั่งซื้อร่วม 300 รายการจากลกูค้า 28ราย