ผมเป็นคนชอบการเมืองลงเล่นการเมือง   แต่ไม่เลือกเรียนด้านรัฐศาสตร์หรือนิติศาสตร์  กลับไปเรียน สถาปัตย์แทน เพราะคุณลุงของผมบอกว่าให้เรียนอะไรก็ได้ เวลาที่เขาไล่คุณออกจากงาน แต่ความรู้ของคุณไม่ได้ออกไปไหนยังอยู่กับตัว ยังหากินได้ก็คืออาชีพสถาปนิก และส่วนตัวผมก็ชอบอาชีพนี้ด้วย  การเรียนสถาปัตย์ผลที่ได้คือวิธีคิดจะละเอียดและเป็นไปได้ไม่ใช่มโน ! เป็นศิลปะแขนงหนึ่งแต่ไม่ใช่เพียวอาร์ตแต่เป็นอาร์ตแอนด์ไซน์ คุณจะคิดพิสดารยังไงก็ได้แต่คุณต้องทำให้เป็นรูปธรรมจับต้องได้ เพราะฉะนั้นสถาปนิกไม่ใช่แค่เขียนแบบแต่เค้าสอนให้มีกระบวนความคิด  พอผมเป็นนักการเมืองผมก็นำสองอย่างมาผสมกัน”“สิงห์ชัย ทุ่งทอง” อดีตสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดอุทัยธานี  เปิดใจกับ The Good News.Asia ในบ่ายวันหนึ่งถึง ชีวิตวัยเยาว์ก่อนเข้าสู่สนามการเมืองจริงว่า ผมเป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่สนใจการเมืองตั้งแต่เด็กมีแรงจูงใจ คือ ญาติ ผมเป็นคนต่างจังหวัดอยู่ที่อุทัยธานีโดยกำเนิดและเป็นตระกูลนักการเมือง เพราะฉะนั้นค่อนข้างไวเกี่ยวกับเรื่องของประเทศชาติ ถึงขั้นเป็นคนบ้าการเมืองสุดๆ แต่เป็นการเมืองในเชิงตรรกะหรือเชิงอุดมการณ์ แต่ไม่ใช่แบบสุดขั้ว  ที่บอกว่าเป็นเชิงตรรกะคือเชิงความเป็นจริงอยู่ร่วมกันได้  คุณทวดผมเป็น ส.ส.คนแรกของจังหวัดอุทัยธานี คือ มหาทวายเศรษฐพาณิชย์ พรรคมนังคศิลา จึงเป็นแรงบันดาลใจมาสู่คุณลุงของผมคือ ศิริ ทุ่งทอง อดีตส.ส.ตลอดกาลของจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นนักการเมืองสมัยเดียวกับ ชัย ชิดชอบ และปัญจะ เกสรทอง

จากนั้นมาต่อยอดที่ลูกชายของคุณลุงคือ ไพโรจน์ ทุ่งทอง ( เจ้าของสวนลุมไนท์บาซาร์ ) เราจึงเป็นเชื้อสายนักการเมืองมาตลอด  สมัยเด็กๆ ตอนผมอายุประมาณ 10 ขวบ  เคยช่วยลงพื้นที่หาเสียงด้วย จึงทำให้การเมืองอยู่ในเลือดเนื้อและจิตวิญญาณ  คุณลุงศิริจึงเป็นไอดอลของผมในทางความคิดเพื่อบ้านเมือง  ท่านเป็นส.ส.ที่มาจากชาวบ้าน ลุงจะลุยแหลกในการช่วยชาวบ้าน พอผมจำความได้ก็ลงพื้นที่กับคุณลุงไปกับรถฉายหนัง ส่วนพ่อของผมเป็นชาวนาแม่เป็นคนจีน ตระกูลของผมมีพ่อคนเดียวเป็นชาวนา ปู่ให้ทำนาเลี้ยงพี่น้องเพราะฉะนั้นผมก็จะเข้าใจระบบพวกนี้หมด แล้วยิ่งพอมาสนใจการเมือง จึงทำให้ติดตัวมาตลอดว่าเรามีความรู้

จนกระทั่งได้เป็นวุฒิสมาชิก พอลงแล้วมันข้ามไปอีกมิติหนึ่ง ตรงที่ว่าเรารู้ว่าศักยภาพวิถีชีวิตวิธีคิดของคนทั่วไปเป็นอย่างไร ชาวบ้านที่เห็นนักการเมืองเค้าคาดหวังว่านักการเมืองจะทำให้เขาได้ทุกอย่าง แต่เมื่อผมเข้าไปแล้วมันไม่ใช่ เพราะมีองค์ประกอบเยอะมาก ผมเองเห็นความลำบาก สัมผัสมาก่อนและก้าวมาเห็นสิ่งศิวิไลและเราก็มีความรู้ในเรื่องของโลกเชิงปัจจุบันด้วย ผมถึงบอกว่าคนเราความรู้ไม่ต่างกัน แต่ในเรื่องของวิธีคิดถ้าคุณคิดแบบ ผ่านๆมันไม่สำเร็จ แต่ในเรื่องส่วนรวมของประเทศ คุณจะคิดให้สำเร็จวันสองวันไม่ได้ แต่มันจะต้องคิดตลอด มันถึงจะสำเร็จบรรลุเป้าหมาย แต่ถ้าคุณคิดเพียงแค่งานเสร็จมันก็เสร็จแต่งานมันไม่บรรลุเป้าหมาย
ความที่ผมอยู่ต่างถิ่นและเข้ามาเป็นสมาชิกวุฒิสภาเมื่ออายุได้ 48 ปี เดินทางไปมาแล้วทั่วโลก เมื่อผมอยู่ต่างถิ่นก็เลยรู้วิถีชีวิตและพอมีความรู้ด้านศิลปะ ก็เลยมานั่งคิดว่าประเทศเราจะเดินไปข้างหน้ามันต้องมียุทธศาสตร์สำคัญ และดินแดนสุวรรณภูมิเป็นดินแดนที่มีอารยธรรม ผมมานั่งคิดว่าคนโบราณเค้าแยบยลมาก เขารู้ว่ามนุษย์มีกระบวนความคิดมีความรู้สึก เขาจึงมีศาสนาประเพณีและวิถีชีวิตเข้ามาสอดแทรก เพื่อให้ปฏิสัมพันธ์กันเพราะมนุษย์มีกระบวนความคิดไม่ใช่หุ่นยนต์


ในช่วงที่ผมเป็นสมาชิกวุฒิสภา ได้เป็นกรรมการในการประกวดแบบรัฐสภาแห่งใหม่ เพราะเป็นสถาปนิกและมีความตั้งใจว่า จะเริ่มจากการออกแบบรัฐสภาจะนำเสนอให้คนเห็น เพราะสถาปัตยกรรมคือศิลปะแขนงหนึ่งของวัฒนธรรม ชาติของเรามีศิลปะของเราเอง ซึ่งทั่วโลกรับรู้ในส่วนนี้จึงมาคิดคำขึ้นว่าเป็นสถาปัตยกรรมสร้างชาติแล้วก็กลับมานั่งคิดว่าต้องมี wording สักคำหนึ่ง เพื่อที่จะให้คนสนใจไม่ต้องไปนั่งอธิบายทุกครั้ง เพราะโดยธรรมชาติของมนุษย์ จะฟังเรื่องต่างๆที่คุยกันไม่เกิน 5 นาทียกเว้นถ้าเรียนหนังสือครึ่งวันก็ฟังได้ ผมจึงคิด wording ขึ้นมาคำนึงก็คือ “วัฒนธรรมสร้างชาติ” หมายถึงศิลปะ,ประเพณี,วิถีชีวิต,สภาพแวดล้อม,ประชาชน
ผมสร้างคำนี้ขึ้นมาเป็น 10 ปีเพื่อให้คนคุ้นชินสงสัย และสิ่งที่อยู่ในจิตวิญญาณของผมก็คือ เรามีความตระหนักในความเป็นบ้านเมือง ถ้าเรามีโอกาสได้เป็นนักการเมืองเราก็เป็น แต่ผมไม่ดิ้นรนเพราะผมไม่ใช่ธุรกิจการเมือง แต่ในขณะที่เราไม่เป็นเราก็ทำในสิ่งที่ทำได้  ถ้านายสินชัยเป็นประชาชนคนหนึ่งมันยากมาก แต่เมื่อเราเป็นสมาชิกวุฒิสภาก็ต้องมียุทธศาสตร์ว่าทำอย่างไรให้คนรู้จักเรา ได้มากน้อยไม่เป็นไร สำเร็จหรือไม่ก็แล้วแต่ๆด้วยความคิดและอุดมการณ์ ด้วยสิ่งที่เรามีมันฝังอยู่ในสายเลือด มันทำให้เราทำแต่วิธีการทำด้วยความที่เราเป็นสถาปนิกเวลาคิดอะไรก็จะไม่เป็นนามธรรม


สิงห์ชัย บอกว่า เมื่อเกิดสถานการณ์โควิดขึ้น ผมก็ตกผลึกมานั่งคิดว่าคนเราเริ่มมองตัวตน คนเริ่มกลับไปดูธรรมชาติสภาพแวดล้อม ผมก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำให้คนธรรมดาเริ่มรับรู้ว่าผมคิดอะไร แล้วสิ่งที่ดีที่สุดก็คือ สื่อแต่ปัญหาก็คือไม่มีใครทำรายการดีๆ เพราะหาสปอนเซอร์ไม่ได้  แต่มีโอกาสตรงที่ 1.คนอยู่บ้านแล้วเริ่มดูทีวี  2. รายการทีวีขอเจรจาได้ในราคาที่พอสมควร ซึ่งรายการเรามุ่งนำเสนอแนวคิด เฉพาะรายการทีวีไปจ้างโปรดักชั่นเฮ้าส์  ผมอธิบายไปแล้วเค้าก็ไม่เข้าใจ เค้าคิดว่าผมพาเที่ยวคิดว่าผมพากินอันนั้นมันเป็นบันเทิง เพราะฉะนั้นรายการประเภทสารคดีมีอยู่เยอะ แต่ผมต้องการให้คน 60 กว่าล้านคนดู และชาวบ้านธรรมดาดูแล้วเข้าใจความคิดผม เมื่อไปแจ้งโปรดักชั่นเฮ้าส์ แล้วเขาไม่เข้าใจผมก็เลยทำมันเอง ซึ่งสิ่งแรกที่คนสนใจที่สุดสำหรับรายการทีวีคือภาพ  ซึ่งสำคัญมาก ผมจึงจ้างทีมงานถ่ายทำ ก็มาคิดว่าจะทำให้อย่างไรให้มันอินกับสิ่งที่ผมคิดเหมือนกับที่ผมกำลังคุยให้ฟังอยู่นี้ ซึ่งหัวหน้าทีมถ่ายทำเขาเข้าใจและอินไปกับผม ผมก็บอกเค้าไปว่าประเทศไทยแม่งดีทุกอย่างและวัฒนธรรมอยู่ในจิตวิญญาณ
ผมถามว่าวิถีชีวิตใครในโลกนี้ที่เหมือนคนไทยบ้าง ผมพูดจากประสบการณ์ตัวเองที่ผมไปมาทั่วโลกบางประเทศบรรยากาศสวย ตึกสวย แต่มันไม่มีชีวิตเพราะมันไม่ใช่แค่อาคารสถานที่ มันต้องรวมถึงมนุษย์ที่อยู่ที่นั่นด้วย นี่คือสิ่งที่วิเศษ ถูกพัฒนามาเป็น 1,000 ปีมาแล้ว แน่นอนเราไม่สามารถที่จะย้อนยุคไปได้ เพราะฉะนั้นวัฒนธรรมสร้างชาติ  ก็คือแนวคิดที่ก่อนที่คุณจะพัฒนาอะไรก็แล้วแต่ ทุกมิติในท้องถิ่นท้องที่ของคุณๆ ดูว่ามีของเก่าของเดิมอะไรบ้าง แล้วคุณพัฒนาแต่การพัฒนานั้นต้องทำโดยผู้รู้เท่านั้น อย่าทำเอง  เพราะถ้าคุณทำเองตามความเข้าใจของคุณเอง คุณจะทำลายโดยไม่รู้ตัว…
ผมอธิบายให้ทีมงานทำเขาก็อินตามที่ผมพูด ฉะนั้นผมจึงต้องเป็นพิธีกรเองไม่มีบทไม่มีสคริป และความที่ไปมาทั่วประเทศนี่นักการเมืองมันรู้มันเห็น  ฉะนั้นเมื่อผมไปทำรายการทีวี “รายการวัฒนธรรมสร้างชาติ” รายการของผมจะเป็นการนำเสนอที่บางครั้งมีกิน มีการพูดคุยก็เพื่อสารคดีบันเทิง แต่ที่กินเหล่านั้นมันก็ไม่หลุดไปจากวัฒนธรรม เพราะวัฒนธรรมอย่างที่บอกว่ามันคือวิถีชีวิตและวิถีชีวิตของคนแต่ละเชื้อชาติ จะมีสิ่งที่ตามมาคือประเพณีและอาหารการกิน เพราะฉะนั้นคำว่าวิถีชีวิตมันไม่มีหมด

วันนี้กรุงเทพฯก็คือ ยุควัฒนธรรม 2021 คำว่า วัฒนธรรมก็คือศิลปะประเพณีวิถีชีวิตที่เรามีของเราเอง แม้ว่าจะมีคนหลากหลายเชื้อชาติอยู่ร่วมกัน แต่ความแยบยลและความสุดยอดของบรรพบุรุษเรา ที่สามารถทำให้คนที่หลากหลายเชื้อชาติอยู่ด้วยกันในประเทศไทย ทำให้เราไม่มีความรู้สึกว่าเราแบ่งแยกเชื้อชาติกัน งานวัฒนธรรมสร้างชาติ จึงไม่ใช่แค่นามธรรม    เพราะฉะนั้นวัฒนธรรมสร้างชาติ concept ก็คือ วัฒนธรรม สร้างชาติโดยการวัฒนา พัฒนา วัฒนธรรม คือศิลปะประเพณีวิถีชีวิตแล้วเท่ห์ต้องกินได้   ทั้งนี้ในเรื่องของยุทธวิธียุทธศาสตร์ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
ส่วนคติประจำใจของผม คือ ลูกชาวบ้านหลานชาวนา แต่ถ้าในเรื่องของแนวคิดก็คือวัฒนธรรมสร้างชาติ เพราะต้นทุนทางวัฒนธรรมคือพลังสำคัญในการสร้างชาติ ผมมองว่าประเทศไทย 68 ล้านคน ความจริงแล้วมันได้ทุกมิติ ถ้าใช้ Concept นี้ในการวางเป้าหมายประเทศ ถ้าสมมุติพี่เป็นนายกฯต่อไปนี้ประเทศไทยจะใช้ Concept นี้ ว่าต่อไปนี้วัฒนธรรมสร้างชาติคืออะไร นำสิ่งที่มีอยู่เดิมและพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัยไม่ใช่ย้อนยุค ยกตัวอย่างเช่น จังหวัดอุทัยธานีเป็นเมืองที่มีเกษตรกร เป็นเมืองที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เป็นเมืองที่มีชุมชนชาวจีน เป็นเมืองเก่า เราก็เอาตรงนี้มาพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพราะมนุษย์ต่อให้มีความเจริญมากน้อยแค่ไหน ก็หนีไม่พ้นจะต้องมีความสุขความเป็นส่วนตัว มีไลฟ์สไตล์ เพราะฉะนั้นอุทัยธานีจึงพัฒนาไปแบบนั้นโดยนำของดีมาขาย เวลาคุณจะทำอะไรต้องมีเรื่องราวให้เล่าขาน มีตำนานให้พูดถึง สิ่งเหล่านี้จะร้อยเรียงความเชื่อมโยงความเป็นมนุษย์ความเป็นสังคม ตลอด 10 ปีที่ผมทำ วัฒนธรรมสร้างชาติ สร้างได้ทั้งความรักความสามัคคี สร้างได้ทั้งความเป็นมนุษย์ สร้างได้ทั้งเงินทองที่จับต้องได้

รายการวัฒนธรรมสร้างชาติ ผมต้องการนำเสนอในสิ่งที่ผมพูดมาตลอด เป็นรายการทีวีเพื่อต้องการจุดประกายให้คนไทยทุกคนในประเทศ ฉุกคิดว่า…ก่อนที่คุณจะพัฒนาคุณมองถิ่นเดิมก่อนได้หรือไม่ ? เราไม่ได้ต่อต้านสิ่งใหม่แล้วเราก็ไม่ได้บอกว่าเราดีที่สุด และในรายการของผมจะมีหลากหลาย ผมไม่ใช่นักประวัติศาสตร์ แต่เป็นนักคิด และสิ่งที่มีความรู้ในตัวตนแต่เข้าใจในเชิงตรรกะนำเสนอเพื่อจุดประกายให้คนไทย สังคมไทยได้ฉุกคิด ทุกอย่างในประเทศนี้มันมีอัตลักษณ์มีสัญลักษณ์มีเรื่องราวเล่าขานตลอด

“อยากฝากถึงคนไทยทุกคนไม่ต้องสิ้นหวัง แผ่นดินนี้ทรัพย์ในดินสินในน้ำไม่เป็นรองใครในโลกใบนี้ทุกอย่าง แล้วเป็นสิ่งที่ชาติอื่นไม่มี คือความเป็นคนไทย ความเป็นวัฒนธรรมที่สั่งสมมานับ 1,000 ปี  ล้วนแต่มีคุณค่าทั้งสิ้น ขอให้คนไทยทุกคนคิดจะพัฒนาอะไรก็แล้วแต่ ให้มองย้อนสิ่งรอบตัวคุณ ศิลปะประเพณี วิถีชีวิตแล้วนำสิ่งนั้นมาพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัย  ส่วนการอยู่ร่วมกันไม่มีอะไรดีที่สุดแต่ต้องเหมาะสมแล้วไปกันได้” สิงห์ชัย ทิ้งท้าย…

ติดตามรายการ “วัฒนธรรมสร้างชาติ”  โดย สิงห์ชัย ทุ่งทอง เป็นรายการสารคดีบันเทิงเชิงวัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิต สิ่งแวดล้อมทั่วทุกภูมิภาคของเมืองไทย ได้ในเวลา 10.00-10.30 น. ทางช่อง 9 MCOT HD30

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here