นีโอ คอร์ปอเรท” เขย่าตลาดครั้งใหญ่ เดินหน้ารีแบรนด์ “ทรอส” ตอบโจทย์ผู้ชายไทย พร้อมชูนวัตกรรมสุดล้ำ ดึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) พัฒนาสูตรสินค้าเครื่องใช้ส่วนบุคคลเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย เปิดตัว “แบงค์” ธิติ มหาโยธารักษ์ นั่งแท่นพรีเซนเตอร์คนล่าสุด เจาะคนรุ่นใหม่ ผลักดันยอดขายปี 2565 เติบโต 15%

ปัทมา ถกลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด  เปิดเผยว่า แนวทางการทำตลาดสินค้าเครื่องใช้ส่วนบุคคลสำหรับผู้ชายภายใต้แบรนด์ “ทรอส” ในปี 2565 บริษัทมีการปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ในรอบกว่า 30 ปี ด้วยการ “รีแบรนด์” ทรอส เพื่อสร้างการรับรู้และมุ่งโชว์ศักยภาพความเป็นแบรนด์ไทยที่มีความโดดเด่นในการพัฒนาสินค้า นำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ มาตอบสนองความต้องการผู้บริโภคเชิงลึก(Insight) ได้ไม่แพ้แบรนด์ต่างประเทศ

นอกจากการรีแบรนด์ บริษัทยังปรับเปลี่ยน ดีไซน์โลโก้ของ “ทรอส” ใหม่ให้มีความทันสมัย และมินิมอลมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเข้าถึง และอ่านง่าย โดยยังคงตัว T ที่ powerful มีความโดดเด่น ตามเอกลักษณ์ของ “ทรอส” เช่นเดิม

อีกไฮไลท์สำคัญในปี 2565 แบรนด์ “ทรอส” มีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI) มาใช้ในการพัฒนา ตลอดจนการปรับปรุงสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นรายแรกในภูมิภาคเอเชีย โดย ทรอส ร่วมกับพันธมิตรบริษัทน้ำหอมชื่อดังที่จับมือกับ IBM ในการใช้ระบบ AI อัจฉริยะ ช่วยประมวลผลจากข้อมูลดาต้าเบส และองค์ความรู้ต่าง ๆ  และนำมาเป็นเครื่องมือหลักในการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ “ทรอส เอไอ ซีรีส์” ในการวิเคราะห์ และคัดสรรสูตรที่เหมาะสมที่สุด เพื่อปลุกความตื่นเต้นให้ตลาด สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ที่สำคัญช่วยตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้ชายไทยได้แม่นยำ สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

“การรีแบรนด์ทรอสครั้งใหญ่ในรอบกว่า 30 ปี ไม่เพียงเป็นการปรับภาพลักษณ์ ยกระดับแบรนด์ให้มีความทันสมัย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ แต่บริษัทยังนำเทคโนโลยี นวัตกรรมเข้ามามีส่วนในการพัฒนาสินค้าด้วย เป็นมิติใหม่ของการคัดสรรกลิ่น ความหอมจากอนาคตมาปลุกความมั่นใจให้ผู้บริโภคที่ใช้ผลิตภัณฑ์ทรอสพร้อมลุยทุกสถานการณ์ รวมถึงการแสดงศักยภาพของแบรนด์ไทยที่มีความโดดเด่นไม่แพ้แบรนด์จากชาติใดในโลก ซึ่งการรีแบรนด์ และการสร้างความแตกต่างในการพัฒนาสินค้าครั้งนี้ จะปูทางไปสู่การสร้างการเติบโตในระยะยาวด้วย”

นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์คนใหม่ล่าสุดอย่างหนุ่ม “แบงค์” ธิติ มหาโยธารักษ์ มาช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้ชายไทย คนรุ่นใหม่ในวงกว้างมากขึ้น เนื่องจาก “แบงค์ ธิติ” มีคาแร็กเตอร์ เท่ ภาพลักษณ์ดี สายลุย สายสปอร์ต ชื่นชอบการทำกิจกรรม สอดคล้องกับ “ทรอส” ที่แบรนด์มีความเท่ สำหรับสายลุยตัวจริง

ส่วนแนวทางการพัฒนาสินค้าในปี 2565 บริษัทยังคงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอ และเป็นการเพิ่มจำนวนผู้ใช้สินค้าให้กว้างขวางขึ้น(New Usage) จากฮีโร่โปรดักซ์ TROS Cool Sport Deo Roll on แตกไลน์สู่สินค้าเครื่องใช้ส่วนบุคคลหมวดอื่นๆ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์โคโลญ เจลแต่งผม แป้งเย็น และครีมอาบน้ำ

จากสถานการณ์โควิด นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้เวลากับออนไลน์เพิ่มมากขึ้นถึง 20% ทำให้คนไทยเข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่างเต็มตัว ในการปรับตัวเข้าสู่ยุคนี้ หลายๆ แบรนด์ต่างหันมาให้ความสำคัญกับการศึกษา journey ของผู้บริโภค เพื่อให้แบรนด์เข้าถึง target ได้อย่างถูกต้องและถูกเวลา   โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายทรอส ที่เป็นผู้ชายรุ่นใหม่ ที่มี Lifestyle อยู่บนโลกออนไลน์เป็นหลัก นอกจาก เล่นเกมส์ออนไลน์ ดูหนัง เสพย์ Online Content วิดีโอคอลคุยกับเพื่อนที่มากขึ้นแล้ว  การซื้อสินค้าจากช่องทางออนไลน์ก็มากขึ้นเช่นกัน บริษัทจึงปรับกลยุทธ์ เน้นทำ Digital Marketing  สื่อสารทางการตลาดผ่านทางช่องทางออนไลน์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และมุ่งเน้นทำตลาด E-Commerceซึ่ง      ทรอสมีการเติบโตกว่า 400% ในปีที่ผ่านมา โดยเน้นกลยุทธ์เข้าถึงผู้บริโภคผ่านความสนใจให้ตรงกลุ่ม สร้าง content ให้น่าติดตามผ่าน KOL และที่สำคัญคือทำให้เกิดCTA (Call to action) ในทุกๆ ครั้งที่มีการลงสื่อโปรโมต เพื่อจูงใจสู่การทดลองใช้สินค้า โดยทรอสมั่นใจว่า หากผู้บริโภคได้ลองใช้สินค้าแล้วจะต้องยอมรับในคุณภาพและประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างดีแน่นอน

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะเดินหน้าขยายไลน์สินค้าไปสู่หมวดใหม่ๆ รับความต้องการตลาดเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อสร้างการเติบโต โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ทรอสหมวดต่างๆ ถือเป็นหนึ่งในผู้นำตลาด เช่น โคโลญและเจลจัดแต่งทรงผมเป็นเบอร์ 1 โรลออน เป็นเบอร์ 2เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การรีแบรนด์ครั้งใหญ่รอบกว่า 30 ปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายปี 2565 เติบโต 15%

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here