31 มีนาคม 2565 – คิง เพาเวอร์ ประกาศความพร้อม ‘คิง เพาเวอร์ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ’ โฉมใหม่ ขานรับนโยบายฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โชว์ศักยภาพการบริหารธุรกิจดิวตี้ ฟรี และกิจกรรมเชิงพาณิชย์ในท่าอากาศยาน     ผนึกกำลังลักชัวรี่แบรนด์ สร้างปรากฏการณ์ ‘ดิวตี้ ฟรี เวิล์ดคลาส ช้อปปิ้ง เดสติเนชั่น’ เสริมภาพลักษณ์ความเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคของสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมเผยโฉมใหม่ ชวนไทยเที่ยวโลก ชวนโลกเที่ยวไทย วันที่ 1 เมษายน นี้

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวถึง ความพร้อมในการ              ขานรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของภาครัฐ เช่นเดียวกับธุรกิจท่องเที่ยวภาคเอกชนอื่นๆ ในเดือนเมษายน นี้ ว่า “ในฐานะที่ คิง เพาเวอร์ เป็นผู้บริหารร้านค้าดิวตี้ ฟรี และพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวและร่วมส่งเสริมภาพลักษณ์ของสนามบินสุวรรณภูมิในการเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค  ในวันที่ 1 เมษายน นี้                  ‘คิง เพาเวอร์ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ’  มีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้า-ออก ด้วยโฉมใหม่ของพื้นที่ภายในสนามบิน รองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเป้าหมาย ตามพันธกิจการปรับปรุงตกแต่งร้านค้า โดยหัวใจสำคัญคือการเป็น World Junction ที่ประกอบด้วย World Fashion, World Beauty และ  World Duty Free เพื่อสร้างปรากฏการณ์ ‘ดิวตี้ ฟรี เวิล์ดคลาส ช้อปปิ้ง เดสติเนชั่น’ (Duty Free World Class Shopping Destination)  เพื่อให้สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค ตอกย้ำภาพลักษณ์สนามบินที่มีความครบครันของแฟล็กชิพ สโตร์ของแบรนด์เนมระดับโลก มีความสมบูรณ์ในระดับสากล

โดยล่าสุด คิง เพาเวอร์ ได้รับความร่วมมือจากแบรนด์แฟชั่นปารีสระดับตำนาน‘หลุยส์ วิตตอง’  (Louis Vuitton) ในการร่วมพลิกโฉมหน้าใหม่แห่งประวัติศาสตร์ ด้วยการเปิดแฟล็กชิพสโตร์ภายในสนามบินที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก พร้อมผนึกกำลังสร้างปรากฏการณ์การเดินทางครั้งใหม่ กับ ‘กุชชี่’ (Gucci) แบรนด์แฟชั่นระดับตำนานสัญชาติอิตาลี ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ของเทคโนโลยี LED video wall display มาสร้างสีสันให้ ‘กุชชี่’      ด้วยการเป็น LED Boutique ในสนามบินครั้งแรกของเอเชีย รวมถึงแฟลกซ์ชิพสโตร์ระดับลักชัวรี่แบรนด์ชั้นนำอีกมากกว่า 20  แบรนด์ระดับโลก ได้แก่ คาร์เทียร์ (Cartier), ชาแนล (Chanel), แอร์เมส (Hermes), เฟอร์รากาโม (Ferragamo), โบเตก้า เวเนต้า (Bottega Veneta), แซงต์ โลรองต์ (Saint Laurent), Balenciaga (บาเลนเซียกา), เซลีน (CELINE),  โลเอเว่ (LOEWE) และริโมวา (Rimowa) เป็นต้น ซึ่งร่วมกันผนึกกำลังเพื่อให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็น World Junction ของ World Fashion ที่มีแบรนด์ระดับโลกครบทุกแบรนด์  

สำหรับพื้นที่ในโซน World Beauty ในการปรับปรุงตกแต่งร้านค้าครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจาก 5 แบรนด์             ชั้นนำ ได้แก่ ชาแนล (Chanel), เอสเคทู (SKII), ลังโคม (Lancôme), เอสเต้ ลอเดอร์ (ESTÉE LAUDER) และ ดิออร์ (DIOR)  เปิดแฟล็กชิพสโตร์เครื่องสำอางและน้ำหอม หนุนความเป็น Beauty Gate Way ระดับลักชัวรี่ นอกจากนี้     ยังปรับปรุงในส่วนของพื้นที่ World Duty Free ซึ่งรวบรวมสินค้ายอดนิยมของนักเดินทาง ได้แก่ สุรา, ขนมและของฝากที่ระลึกทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงสินค้าอัตลักษณ์ไทยพื้นบ้านที่ช่วยสร้างรายได้หมุนเวียนเศรษฐกิจชุมชน

ในส่วนของการอำนวยความสะดวกระหว่างเดินทาง ได้ทำการปรับปรุง The Atlas Club และ King Power Space   สำหรับให้บริการสมาชิก คิง เพาเวอร์ ภายใต้มาตรการสุขอนามัยระดับสากล แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายแก่นักเดินทาง   ซึ่งสมาชิกฯ สามารถตรวจสอบสิทธิการเข้าใช้บริการล่วงหน้าที่ http://member.kingpower.com

นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงในส่วนพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้มีความพร้อม สามารถรองรับการให้บริการนักท่องเที่ยวในระหว่างเดินทาง ด้วยร้านอาหารชั้นนำและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น    ในขณะเดียวกัน ยังมีการพัฒนาด้านการให้ ‘บริการ’ ใหม่ในสนามบิน เรียกว่าบริการ  KING POWER CLICK & COLLECT  ผ่านระบบออนไลน์มาช่วยตอบโจทย์การท่องเที่ยวและการช้อปปิ้งยุคใหม่ ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว จากที่ไหนก็ได้ตลอด 24 ชั่วโมงสามารถให้บริการได้เหนือชั้นไม่แพ้ ดิวตี้ ฟรี อื่นๆ ในแถบภูมิภาคเอเชีย  ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนธันวาคม ที่ผ่านมา ช่วยอำนวยความสะดวกในการช้อปปิ้งสินค้า ดิวตี้ ฟรี กับ คิง เพาเวอร์ ในระบบออนไลน์ และรับของง่ายขึ้นที่สนามบินทั้งขาเข้า-ขาออก  สามารถช้อปปิ้งได้จนถึง 2 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนออกเดินทาง และมีการเพิ่มแบรนด์ดังที่มากกว่าเดิม รวมถึงสินค้า Travel-Exclusive โดยจากการเปิดให้บริการมาแล้ว 3 เดือน บริการดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยกลุ่มสินค้ายอดนิยม ได้แก่ เครื่องสำอางและน้ำหอม

ทั้งนี้ การปรับปรุงร้านค้าภายใน คิง เพาเวอร์ ณ สุวรรณภูมิ จะเป็นการต้อนรับการเดินทางเข้า-ออกครั้งใหม่ระหว่างประเทศของนักเดินทางทั่วโลก โดยจะเห็นภาพการเปิดรับนักท่องเที่ยวของแต่ละประเทศชัดเจนขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน นี้ เป็นต้นไป  ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะนำเสนอ Magnet ใหม่ของ ดิวตี้ ฟรี ระดับเวิล์ดคลาส และพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่ครอบคลุมการให้บริการสำหรับการเดินทาง เป็น World Junction ใหม่ที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ของสนามบินสุวรรณภูมิ ในการเป็นศูนย์กลาง      การบินระดับภูมิภาคได้อย่างสมบูรณ์

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here