วิถีของศิลปินลูกทุ่งสาวไทยเชื้อสายจีน “กล้วย ฐิภารินทร์ ยอดธนาสวัสดิ์” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “กล้วย คลองหอยโข่ง” กับการใช้ชีวิตแบบครอบครัวชาวจีนจากอดีตสู่ปัจจุบันในใลกดิจิทัล รับกระแสตรุษจีน พร้อมฝากผลงานเพลง ยอดวิวทะลุ 30ล้าน สวนกระแส COVID-19
ความสำเร็จกับผลงานพลงลูกทุ่งในช่วงสถานการณ์COVID-19
หลังจากพักงานละคร กล้วยก็มีโอกาสได้ทำตามฝันกับการร้องเพลงแนวลุกทุ่ง อย่างที่ทราบว่าเราเข้าสู่วงการมา ประกวดเข้ามาตั้งแต่เด็กๆ ก็เล่นละครมาสิบๆปี จนได้มาทำงานเพลง พอได้มาเป็นนักร้อง เราก็มีผลงานเพลงมาพอสมควร แต่กว่าจะมีเพลงเป็นที่รู้จัก ก็เพิ่งมาช่วงCOVID-19 รอบที่แล้ว พอเพลงของเราได้เปิดตามสถานีวิทยุ และ ขึ้นอันดับความนิยมต้นๆ ถือว่าเกินคาดมาก ดีใจค่ะ เหมือนสวนกระแส เพราะช่วงนั้น หลายๆคน ยังไม่กล้าทำผลงานออกมา แต่สำหรับเรา ไหนๆก็ถ่ายMVมาแล้ว ทำเพลงเรียบร้อยแล้ว ก็เลยปล่อยซิงเกิล “โสดผัวทิ้ง” ปรากฏว่ามันกลายเป็นกระแส ทั้งในติ๊กต็อก ไปเล่นตามผับบาร์ ตามคอนเสิร์ต มีคนเอาไปเล่นทุกที่เลย ตอนนั้นรู้สึกดีใจมาก เพราะงานจ้าง รายได้ช่วงนั้นก็ยังไม่มีเข้ามา ก็นับเป็นอีกช่องทางดีๆ ที่มาหล่อเลี้ยงเราได้บ้าง สำหรับ COVID-19 รอบนี้ก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน อย่างแรกเราก็ต้องวางแผนก่อน จัดการชีวิต เราจะรู้จักเซฟตัวเองมากกว่าเดิม เรื่องเงินเราก็ต้องประหยัดมากขึ้นด้วย
รับตรุษจีน กับชีวิตสไตล์คนไทยเชื้อสายจีน
ที่บ้านเป็นคนสงขลา มีเชื้อสายจีนค่ะ “แซ่หลี” คุณปู่คุณย่า บรรพบุรุษมาจากเมืองจีนเลย ส่วนด้านคุณแม่เป็นคนไทย เราเลยเรียกได้ว่าเป็นลูกครึ่งไทย-จีนค่ะ ก็จะผ่านการอบรมเลี้ยงดู ความเข้มงวดไปทางจีน มาตั้งแต่เด็กๆ จะโดนดุ จะโดนห้ามโน่นนี่หลายอย่าง เรื่องการแต่งตัวด้วย คุณพ่อจะเข้มงวดมาก ประกอบกับเราเป็นพี่สาวคนโต มีน้องสาวอีก 2 คนก็จะมีบ้างที่แบบเราเป็นคนโต เป็นเหมือนหลานคนแรกของตระกูล เราจึงเหมือนถูกคาดหวังต้องเป็นเสาหลัก เป็นแบบอย่างให้กับน้อง ๆ เราก็จะรู้สึกอึดอัด แต่ต้องวางตรงนั้น คิดซะว่าที่คาดหวังกับเราแบบนั้น ก็เพื่ออนาคตที่ดี มีชีวิตที่ดี เพื่อให้เราดูแลตัวเองได้ พ่อแม่จะได้มีความสุข
ครอบครัวกับการอบรมเลี้ยงดูแบบจีน
การเลี้ยงดูเมื่อเปรียบเทียบกับครอบครัวของเพื่อนที่เป็นคนไทยแท้ มันค่อนข้างที่จะแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องความเชื่อ เรื่องการอบรมเลี้ยงดู แต่ในส่วนของการให้ความสำคัญกับการเรียน ที่บ้านก็จะเน้นเรื่องตรงนี้มาก จะสนับสนุนด้านการเรียนเต็มที่ ให้ได้มีอนาคตที่ดี จะได้ไม่ลำบากเหมือนรุ่นบรรพบุรุษที่ต้องอพยพมาจากเมืองจีน ส่วนในเรื่องหลักคำสอน เนื่องจากที่บ้านเป็นคนจีนทำมาค้าขาย ก็จะเน้นสอนในเรื่องคุณธรรม ความซื่อสัตย์ ที่จะคอยปกครองลูกน้องที่บ้าน เรื่องความขยันอดทนต้องมาก่อน ต้องรีบกินข้าว ทำอะไรก็อย่าให้ล่าช้า เพราะทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง เราไม่มีที่ดิน หรือสมบัติเหมือนครอบครัวคนอื่นๆ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องขยัน ต้องรีบทำงาน และที่สำคัญคือเรื่องความกตัญญู ซึ่งจะมาคู่กับวัฒนธรรมของคนจีนเลย ทุกครั้งที่ไหว้เจ้า หรือประเพณีแบบจีน ครอบครัวจะเน้นเรื่องนี้ ให้นึงถึงคนที่เคยให้โอกาสเรา บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ต้องให้ความสำคัญแทบจะทุกเทศกาล รวมถึงวัฒนธรรมที่ให้ครอบครัวมารวมอยู่พร้อมหน้ากัน เหมือนเป็นความตั้งใจที่จะให้ญาติพี่น้องมาอยู่ด้วยกันในโอกาสพิเศษ การมอบของขวัญแทนกำลังใจ ร่วมกันทำอาหาร นั่งโต๊ะรับประทานร่วมกันทุกอย่างก็เป็นของมงคลโชคลาภ เกิดความอบอุ่นในครอบครัว ภายใต้เทศกาลสำคัญ เช่นเดียวกับตรุษจีนค่ะ
เสน่ห์ 3 อย่างช่วงตรุษจีน
ถ้าย้อนกลับไปในวัยเด็ก 3 สิ่งที่คิดถึงในช่วงเทศกาลตรุษจีน อย่างแรกเลยคือ อั่งเปา ยิ่งถ้าครอบครัวไหนมีเด็กๆเยอะๆ ก็จะมีแบบมานั่งนับเงินเปรียบเทียบจำนวนกัน เป็นความสนุกสำหรับเด็กๆในตอนนั้น อย่างที่สองคือ อาหารการกิน ช่วงตรุษจีน ของกินที่ผู้ใหญ่ทำเตรียมไว้จะเยอะมาก ทั้งจากไหว้เจ้าและทำเลี้ยงภายในครอบครัว เมนูโปรดของกล้วยเลยคือ ผัดหมี่ ค่ะ ส่วนอย่างที่สาม จะนึกถึงการจุดประทัด ช่วงกลางคืนจะมีพิธีส่งเจ้ารับเจ้า หรืออัญเชิญเทพจากสวรรค์ก่อนจะเข้าตรุษจีน มีการจุดประทัด ทำให้นึกถึงบรรยากาศ ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของตรุษจีนเลยค่ะ
ปรับตัวกับเทศกาลตรุษจีนยุคNew Normal
สำหรับปีนี้ที่วางแผนไว้ คงไม่ได้กลับไปร่วมพิธีที่บ้าน เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เรื่องของเศรษฐกิจ เรื่องของของไหว้ ราคาก็จะสูงขึ้นด้วย เราก็ปรับเปลี่ยนให้เล็กลง ไม่ได้จัดเต็มเหมือนปีที่ผ่านๆมา แต่ยังคงทำตามประเพณี สืบสานความเป็นตรุษจีนต่อไป ก็จะใช้วิธีเลือกของไหว้ตามสะดวกตามกำลังค่ะ ปรับให้สะดวกเหมาะสมตามสถานการณ์ค่ะ อาจจะงดในเรื่องการจุดธูป จุดประทัด เพื่อลดฝุ่นละออง PM2.5เราก็จะร่วมรณรงค์ตามสถานการณ์ตรงนี้ อย่างเทศกาลตรุษจีนปีนี้
โลกดิจิทัลกับเทศกาลตรุษจีน
ในมุมมองของเรา สำหรับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป โลกดิจิทัลมีผลระทบกับประเพณีตรุษจีนตรงนี้อย่างมาก แต่ในมุมมองที่ดีขึ้นนะคะ อย่างสมัยก่อนถ้าถึงเทศกาลตรงนี้ จะรู้สึกเป็นอะไรที่เฉพาะกลุ่มคนที่มีเชื้อสายจีนเท่านั้น ทั้งการใส่เสื้อสีแดง การหาของไหว้ ผลไม้มงคล ฯลฯ แต่สำหรับในยุคนี้ ด้วย ด้วยการนำเสนออะไรหลายๆอย่าง ช่องทางสื่อต่างๆที่มากขึ้น มันทำให้ตรุษจีนไม่เพียงแต่เป็นประเพณีเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีนเท่านั้น แต่กลายเป็นประเพณีแห่งความสุขของคนไทยทั้งประเทศ คนไทยพุทธเองก็สามารถติดตามจากโซเชียลมีเดีย หาข้อมูลเรื่องของการไหว้สิ่งที่เสริมสิริมงคล การไหว้เทพขอพรต่างๆ และที่จะเห็นได้ชัดคือ การใส่เสื้อผ้าสีเสริมมงคลอย่างสีแดงในเทศกาลนี้การประดับประดาไฟตามแหล่งชุมชนหรือห้างสรรพสินค้า เป็นต้น เรียกว่าทุกคนสามารถเข้าถึงได้ร่วมกัน มองไปทางไหนก็สีแดงไปหมด แต่ด้วยสถานการณ์ในปีนี้ก็อาจจะต้องจำกัดลง อาจจะมาในรูปแบบของโซเชียลมีเดียแทน อวยพรผ่านไลน์ โพลต์รูปลงเฟซบุ๊ก เป็นต้น
…ท้ายสุด สาวหมวยหัวใจลูกทุ่งกล้วย คลองหอยโข่ง ขอฝากผลงานเพลงลุกทุ่งยอดฮิต ทะลุ 30ล้านวิว “โสดผัวทิ้ง”พร้อมช่วยเป็นแรงเชียร์แรงใจ สนับสนุนเพลงสนุกๆ ผ่านช่องทางyoutube : wefinmusic, IG, tiktok : banana khongกันได้ตามสะดวก…