“บูรพา พรอสเพอร์” ผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งข้าวโม่น้ำสำเร็จรูป แบรนด์ “หมีคู่ดาว” เดินหน้าก้าวสำคัญสู่เจเนอเรชั่นที่ 2 วางวิสัยทัศน์แบรนด์นวัตกรรมกับ “การพัฒนาและปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง” เข้ายุคใหม่ ส่งมอบคุณค่าจากทรัพยากรอาเซียน สู่คุณภาพและความสำเร็จบนตลาดโลก ตามแนวทาง “ASEAN Value, Global Quality”

นางสาวสถาพร ไพศาลบูรพา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บูรพา พรอสเพอร์ จำกัด เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นของแบรนด์ “หมีคู่ดาว” ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 40 ปีก่อน จากความฝันของคุณพ่อพรชัย และแรงสนับสนุนจาก คุณแม่ขนิษฐา ไพศาลบูรพา สองผู้ก่อตั้ง “บูรพา พรอสเพอร์” ด้วยคุณพ่อพรชัยมีวิสัยทัศน์ในการจับเอาสินค้านวัตกรรมในสมัยนั้น อย่าง “แป้งข้าวโม่น้ำสำเร็จรูป” ที่กำลังเป็นที่ต้องการในประเทศมาเลเซีย มาพัฒนา คิดค้น ดัดแปลง และส่งจำหน่ายให้ลูกค้าชาวมาเลเซียจนเป็นที่พอใจ คุณพ่อพรชัยจึงเริ่มขยับขยายการผลิต สร้างโรงงานของตัวเอง พร้อมขยายสินค้าไปยังตลาดสิงคโปร์ ไต้หวัน รวมถึงในประเทศไทย โดยเน้นที่ภาคตะวันออกซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงาน ก่อนเติบโตเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกแป้งข้าวคุณภาพสูงทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างทุกวันนี้

“ปัจจุบัน แป้งข้าวโม่น้ำหมีคู่ดาวก็ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านคุณภาพของสินค้าและความสะดวกในการใช้งาน ทั้งยังมีการสร้างทีม R&D เพื่อวิจัยผลิตภัณฑ์ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครอบคลุม ตัวอย่างเช่น ผลงานกระบวนการผลิตสาคูสมัยใหม่ มีมาตรฐานความปลอดภัยอาหารสากล, การสร้างแป้งผสมกลูเตนฟรีสำหรับเบเกอรี่ ที่ได้รับรางวัลจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และผลงานพัฒนาล่าสุด อย่างกลุ่มแป้งสำเร็จรูป ที่ผสมและปรุงรสแล้วสำหรับ Thai Street Food ทั้งแป้งไก่ทอด กล้วยทอด ขนมครก ขนมถ้วย ให้ความสะดวกกับพ่อค้า-แม่ค้ายุคใหม่ จบในถุงเดียว รวมถึงมีการยกระดับมาตรฐานด้านกระบวนการผลิตขึ้น ซึ่งทำให้โรงงานหมีคู่ดาว เป็นโรงแป้งที่ได้รับรองมาตรฐาน GMP และ HACCP แห่งแรกๆ ของประเทศไทยอีกด้วย”

ด้วยวิสัยทัศน์แบรนด์แห่งนวัตกรรม ที่ตั้งใจเดินหน้ากับ “การพัฒนาและปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง” ตลอด 40 ปี ทำให้แบรนด์หมีคู่ดาว กลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแป้งพื้นฐาน อย่างแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว แป้งมัน และสาคู ที่สามารถใช้ทำอาหารและขนมสไตล์เอเชี่ยนได้หลากหลายเมนู จนเป็นที่แพร่หลายในท้องถิ่นภาคตะวันออกของไทย รวมถึงทั่วทั้งอาเซียน ด้วยตลาดส่งออกขนาดใหญ่มากถึง 8 ใน 9 ประเทศ ตามด้วยความนิยมแป้งข้าวและสาคู ในประเทศกลุ่มเอเชียเหนือ ทั้ง จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น รวมถึงความชื่นชอบในผลิตภัณฑ์สาคู จากตลาดยุโรปและอเมริกา จนปัจจุบันแบรนด์ “หมีคู่ดาว” สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์แป้งข้าวโม่น้ำสำเร็จรูปของคนไทย ไปได้มากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก การก้าวเข้าสู่ยุคเจเนอเรชั่นที่ 2 ของหมีคู่ดาว ได้มีการยกระดับและลงทุนด้านนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อวิสัยทัศน์การเป็นแบรนด์สินค้าในระดับอาเซียน อาทิ การลงทุนในบุคลากร พัฒนาด้านทักษะและความรู้ รวมถึงประสบการณ์การทำงานในประเทศอาเซียน, ลงทุนขยายฐานการผลิตนอกประเทศ ด้วยการร่วมทุนโรงงานแป้งข้าวในประเทศกัมพูชาและอินโดนีเซีย, ลงทุนในระบบและโครงสร้างเสริมประสิทธิภาพการทำงาน จากระบบ MS 365 on cloud เพิ่มความสะดวก คล่องตัว สามารถซัพพอร์ทการทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา ในอนาคต และที่สำคัญ ยังมีการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับการวิจัยและพัฒนา มากกว่า 50 ล้านบาท พร้อมสร้างมาตรฐานกระบวนการผลิตให้สูงขึ้น จนได้รับรองความปลอดภัยอาหารพื้นฐานในตลาดโลก เช่น FSSC22000, Halal, Kosher, และ Certified Organic

ทั้งนี้ วิกฤตการณ์โควิด-19 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นบททดสอบสำคัญของหมีคู่ดาว ที่ต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบ ทั้งจากพื้นที่ท้องถิ่นอย่างเขตท่องเที่ยวพัทยา รวมถึงมาตรการล็อกดาวน์และการชะลอการสั่งซื้อจากลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งบริษัทฯ ได้รับมือด้วยการตั้งทีม Business Contingency Plan มาจัดการแผนงานให้ธุรกิจเดินหน้าต่อได้อย่างไม่ติดขัด พร้อมทำโครงการ Lean เพื่อลดงานที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในหลายๆ ส่วน ที่สำคัญบริษัทฯ ยังได้ใช้วิกฤตนี้มาลงทุนกับการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับลูกค้า เช่น การใช้เครื่องบรรจุแป้งแบบระบบดูดอากาศแทนการเจาะรู ป้องกันการปนเปื้อนจากเชื้อโรคและความชื้น รวมถึงการเปลี่ยนสเปคถุงพลาสติกให้มีความทนทานขึ้น ลดความหนาของถุงลง 25% ซึ่งเทียบเท่ากับการลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ลง 450 ตันต่อปี สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่หมีคู่ดาวยึดถือปฏิบัติตลอดมา

นางสาวสถาพร กล่าวต่อว่า เป้าหมายหลังผ่านพ้นวิกฤตของหมีคู่ดาว คือการทำให้แบรนด์เป็น Brand of Choice หรือตัวเลือกแรกในใจผู้บริโภค ด้วยการทำกลยุทธ์ Co-Marketing สนับสนุนกิจกรรมร่วมกับพาร์ทเนอร์ยุคใหม่ในวงการร้านอาหาร พร้อมใช้ช่องทางคอมมูนิตี้ออนไลน์ ให้คุณภาพของสินค้าเป็นที่รู้จัก ในเรื่อง Food Safety, Global Quality, การลดต้นทุนเวลา และการมีส่วนร่วมในการสนับสนุนธุรกิจที่ดี รวมถึงใช้ร้านค้าทั่วประเทศทำ Local Marketing Communication จัดการช่องทางขายของร้านท้องถิ่นให้เป็น Win-Win Strategy พร้อมช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าได้เปิดใจกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะศักยภาพของแป้งกลุ่ม Thai Street Food ให้เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย ก่อนจะผลักดันไปยัง Asian Grocery ในประเทศใหญ่ๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยสามารถนำ Thai Street Food ไปทำให้ชาวต่างชาติรู้จักและเข้าถึง Thai Street Food ได้ง่ายขึ้น

“บูรพา พรอสเพอร์ เป็นบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการส่งมอบคุณค่าจากไทยสู่อาเซียนและก้าวไปยังตลาดโลก บริษัทฯ จึงได้ตั้งพันธกิจของตัวเองว่า ‘ASEAN Value, Global Quality’ ซึ่งคุณค่าในที่นี้คือความเชื่อในศักยภาพของทรัพยากรท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น ผลผลิตทางการเกษตร หรือบุคลากร โดยพันธกิจของเราคือการนำคุณค่าในผลผลิตและบุคลากรเหล่านี้ มาหล่อหลอมในผลิตภัณฑ์ ‘หมีคู่ดาว’ ที่ตอบโจทย์ด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความสะดวก พร้อมเพิ่มพลังให้กับลูกค้าทั้งขนาดเล็กในระดับ micro หรือขนาดใหญ่ในระดับ MNC ได้เติบโตไปด้วยกัน บนเป้าประสงค์ที่ทำมาตลอด 40 ปี ของการนำสิ่งที่ดีสู่ชีวิตบนพื้นฐานของการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน” นางสาวสถาพรกล่าวทิ้งท้าย

ติดตามความเคลื่อนไหวและสอบถามข้อมูลของแป้งข้าว “หมีคู่ดาว” เพิ่มเติมได้ที่ www.burapaprosper.com หรือ FB: DoubleBearBrand / Line: lin.ee/cV6wnbq

หรือ โทร. 038 391 503

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here